น้องวันใหม่ พูดถึงพี่มาดามมด








วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558
Posted by Unknown

คลิปเณรน้อย ให้พรญาติโยม สุดน่ารัก








Posted by Unknown

10 โรคร้ายแรง ที่เลวร้ายที่สุดใน ประวัติศาสตร์ ของมนุษย์






วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558
Posted by Unknown

ของแปลกที่สุดในโลก ที่ถูกขุดเจอในสวนหลังบ้าน








Posted by Unknown

คลิปที่แปลกที่สุดในโลก








Posted by Unknown

แม่ค้าหวยเมืองหมอแคน ขายเกินราคา/อ้างรับมาแพง



จับจริงตำรวจโรงพักน้ำพอง จ.ขอนแก่น รวบตัวแม่ค้าหวยลอบขายเกินราคา จัดสลากฯเลขสวย 5 คู่ขายเป็นชุด ราคาชุดละ 500 บาท อ้างรับมาแพง







เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พ.ต.ท.ถนอมศักดิ์ โสภา รอง ผกก.สส.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน จับกุม น.ส.บัวไข รอบโลก อายุ 42 ปี ชาว อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แม่ค้าลอตเตอรี่ที่ลักลอบขายสลากกินแบ่งเกินราคา พร้อมของกลางสลากฯชุดที่ 11 หมายเลข 458152 จำนวน 5 ใบ และธนบัตรในการล่อซื้อ จำนวน 500 บาท สอบสวน น.ส.บัวไข รับสารภาพว่า ได้จำหน่ายสลากฯเกินราคาจริง เนื่องจากรับมาแพง จึงนำมาทำเป็นเลขชุด ชุดละ 5 ใบ จำหน่ายในราคา 500 บาท จึงแจ้งข้อหา จำหน่ายสลากกินแบ่งของรัฐเกินราคาที่กำหนด ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมาย ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ออกตะเวนดูตามสถานที่จำหน่ายสลากฯ ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เทศบาลตำบลวังชัย อ.น้ำพอง พบผู้ค้าสลากฯรายย่อยบางรายยังมีการจัดหวยชุดมาจำหน่ายเกินราคาอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวมาตรการทางกฎหมาย ที่ทาง คสช. ประกาศให้จำหน่ายในราคาใบละ 80 บาทแต่อย่างใด.









ที่มา: http://www.dailynews.co.th

โจรเมืองสองแควหากินง่าย ฉกหมู-ไก่จากตะกร้าหน้ารถ



เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่า ระยะนี้ได้มีเหตุคนร้ายออกอาละวาดลักเนื้อหมู เนื้อไก่ และสินค้าต่างๆ ที่วางไว้ในตะกร้าหน้ารถ จยย. โดยล่าสุด คนร้ายเพิ่งก่อเหตุเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และ



กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบรรดาพ่อค้าแม่ค้ากำลังมุงดูภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 170 ซม. ผิวขาว อายุประมาณ 40 ปี ที่ลักเนื้อหมู 3 กก.ไปจากตะกร้าหน้ารถ จยย.ของผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งคนร้ายได้เดินวนไปวนมาบริเวณที่จอดรถหน้าอาคารตลาดสดเพื่อหาเหยื่อ เมื่อสบโอกาสก็หยิบฉวยสินค้าไป ก่อนส่งต่อให้พวกอีกคนที่มารอรับ ด้าน นายเสน่ห์ เนียมสลุด ประธานตลาดสดเทศบาล 6 ร่วมใจ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีพ่อบ้านแม่บ้านจำนวนมากที่มาจ่ายตลาด แล้ววางสินค้าไว้หน้ารถ จยย. แต่ปรากฏว่าของหายไป โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ รวมถึงพืชผักต่างๆ ซึ่งในรอบเดือนที่ผ่านมา มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย เบื้องต้นทางคณะกรรมการตลาดสดฯได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทั้ง 2 อาคาร จำนวน 8 ตัว และสามารถจับภาพคนร้ายได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนที่มาจับจ่ายสินค้าให้ระมัดระวัง ตัว ไม่ให้วางสินค้าไว้หน้ารถ เพื่อป้องกันการก่อเหตุของคนร้าย ซึ่งถือว่าเป็นการป้องกันตนเองในเบื้องต้น ขณะที่ นางกลุ่ม รอดสวัสดิ์ แม่ค้าขายของในตลาดฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเข้มงวดตรวจตรา ป้องกันไม่ให้คนร้ายได้มีโอกาสลงมือ จนพวกโจรที่มาลักของจากตะกร้าหน้ารถหายไปพักหนึ่ง กระทั่งช่วงนี้จึงกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ทั้งนี้ อยากวอนให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว.








ที่มา: http://www.dailynews.co.th

สาวทอมซดเหล้าระบายกลุ้ม คว้ามีดแทงอกประชดรักดับ



เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ร.ต.ท. ตวงสิทธิ์ เหง้าสุสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า เมื่อช่วงดึกวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนรับแจ้งมีผู้ทำร้ายตัวเองเสียชีวิต ภายในเพิงพัก ซอยวงศ์สว่าง 19 แยก 3 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นเพิงพัก สภาพไม่พบร่องรอยการต่อสู้ บนเพิงพบศพน.ส. วี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 30-35ปี สภาพนอนหงาย มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าอกขวา นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบมีดปลอกผลไม้ เปื้อนเลือดตกอยู่และขวดเหล้าขาว 2 ขวด วางอยู่





สอบสวนเบื้องต้น นางสุระดา ใจฉ่ำ อายุ 44 ปี ให้การว่า เพิ่งรู้จักกับผู้ตายที่มาเช่าบ้านพักอยู่ตามลำพังได้ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยผู้ตายจะมีลักษณะคล้ายทอมบอย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มานั่งกินเหล้ากันกับตนและนายวิโรจน์ นาคเจริญ เพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน 3 คน ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยผู้ตายได้พูดจาเป็นเชิงตัดพ้อตนว่า ไม่ค่อยโทรศัพท์และรับสายผู้ตาย ตนจึงพยายามชี้แจงว่างานยุ่ง แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อจู่ๆผู้ตาย ได้คว้ามีดปลอกผลไม้ขึ้นมาแทงที่หน้าอก ล้มแน่นิ่งจมกองเลือดต่อหน้าต่อตา เมื่อรวบรวมสติได้จึงรีบโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวชโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุข้อเท็จจริงต่อไป.







ที่มา: http://www.dailynews.co.th

ลุ้นไปตามๆกันกับผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่



ลุ้นไปตามๆกันกับผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ งวดประจำวันที่ 1 ก.ย. 58 ซึ่งเพิ่มรางวัลเลขหน้า 3 ตัวให้บรรดาคอหวยได้เสี่ยงโชคทั้งเลขหน้าและเลขหลัง โดยรางวัลที่1 ได้แก่ 021094 เลขท้าย 3 ตัว 068 819เลขหน้า 3 ตัว260 403 และเลขท้าย 2 ตัว 89





ชาวบ้าน (ผวาหมู่บ้านอาถรรพ์สุดพิลึก "1เดือน"ตายต่อเนื่อง20ศพ) ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่เป็นลมเสียชีวิต โดยล่าสุดเป็นเด็กชายวัย 6 ขวบ ซึ่งป่วยกระทันหันได้ 3-4 วันก็เสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้ชาวบ้านเล่าว่า ตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มีคนในหมู่บ้านทั้งชาย-หญิง ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่นหรือคนแก่ ต่างพากันเสียชีวิตกระทันหันส่วนใหญ่เป็นลมและเสียชีวิตทันทีโดยที่แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ทั้งที่บางคนมีสุขภาพแข็งแรง จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านพากันหวาดกลัวและสร้างหุ่นคนใส่เสื้อสีแดงเป็นการแก้เคล็ด พร้อมกับเขียนข้อความว่า “บ้านนี้ไม่มีคนเป็นลมมีแต่หมากับแมวเท่านั้น

เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้นักเรียน ('นาฏศิลป์เชียงใหม่'แตกตื่น อพยพหนีแผ่นดินเดือด) โดยเหตุการณ์ดังกล่างเกิดขึ้นที่ วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ถนนสุริยวงศ์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังพบว่าพื้นอาคาร กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร มีอุณหภูมิสูงมากจนมีไอร้อนระเหยขึ้นมา โดยมีความร้อนสูงถึง 40-60 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางคืน และในเวลากลางวันอุณหภูมิจะยิ่งร้อนหนักกว่า 50-78 องศาเซลเซียส เมื่อเทน้ำลงไปจะพบควันลอยกรุ่นขึ้นมา เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบไม่พบไฟฟ้ารั่ว และ (เร่งหาสาเหตุ'แผ่นดินเดือด') พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำและดินไปตรวจสอบอย่างละเอียด ด้าน รศ.ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่าตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นของความร้อนปริศนาครั้งนี้ได้ เพราะไม่ใช่เกิดจากไฟรั่ว โดยอาจจะเกิดขึ้นได้ 2 สาเหตุ คือ 1.แก๊สที่เกิดจากการหมักหมมของสารอินทรีย์ที่อยู่ใต้ดิน ทำให้เกิดความร้อน หรือ 2.น้ำพุร้อนซึ่งเกิดจากรอยแตกของเปลือกโลก ที่ลึกลงไปหลายกิโลเมตร และผ่านมาที่ตาน้ำ เพราะบริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นไปได้น้อยแต่ก็มีโอกาส จึงต้องเก็บตัวอย่างดินและน้ำไปตรวจสอบสสารอย่างละเอียด เพื่อหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็ว










Honda กับเกียรติประวัติในการคว้าชัยระดับโลก World GP ถึง 700 ครั้ง



Honda ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พร้อมทำตลาดส่งเสริมในด้านของวงการ Motorsport มาเป็นเวลายาวนาน  โดยล่าสุดในวงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโลก ซึ่งมีผู้ติดตามชมทั่วโลกอย่างรายการ MotoGP ได้มีการทำลายสถิติการคว้าแชมป์ในระดับโลกไปถึง 700 ครั้งเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำในวงการ Motorsport ให้กับ Honda ได้อย่างยอดเยี่ยม




เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2015 ที่ผ่านมานี้ ก่อนการแข่งขันในศึก MotoGP ฤดูกาล 2015 สนามที่ 10 ณ Indianapolis Motor Speed Way ประเทศสหรัฐฯ ทาง Honda ได้มีการเก็บสถิติในการคว้าชัยระดับโลกรวมทั้งสิ้น 698 ครั้ง
แต่เมื่อจบการแข่งขันในสนามนี้ Honda สามารถทำสถิติรวมคว้าชัยในระดับ World GP ได้ถึง 700ครั้งด้วยกัน
เมื่อเจ้าหนู Livio Loi นักบิดจากรายการ Moto3 อายุเพียง 18 ปี ชาวเบลเยียม สังกัดทีม RW Racing GP Honda ควบรถแข่ง NSF250RW คว้าชัยในสนามนี้ เช่นเดียวกับ Marc Marquez ที่คว้าแชมป์ในรายการ MotoGP ในนามของ Repsol Honda ได้สำเร็จ หลังจากที่ไล่หลัง Jorge Lorenzo จาก Movistar Yamaha มาตลอดทั้งเกม จนสามารถแซงได้ในช่วง 3 รอบสุดท้ายคว้าธงตราหมากรุกเป็นคนแรกได้สำเร็จ
การที่ Honda สามารถคว้าชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในรายการระดับโลกมาอย่างมากมายนั้น เราคงต้องนับย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1959 Honda ถือเป็นค่ายรถจักรยานยนต์จากเกาะญี่ปุ่นเป็นค่ายแรกที่เข้าร่วมรายการแข่งสุดโหดระดับโลกอย่าง Isle of Man TT เป็นต้นมา และเราจะขอพาทุกท่านย้อนประวัติศาสตร์ดังกล่าวไปพร้อมๆ กับนักบิดที่เคยสร้างชื่อให้แก่ Honda ดังต่อไปนี้










ที่มา: http://www.aphonda.co.th
Posted by Unknown

ปีติภาพถ่ายหาชมยาก สมเด็จพระบรมฯ ทรงสอน 'องค์ที' ว่ายน้ำ



พสกนิกรปลื้มปีติภาพสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฝึกว่ายน้ำให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ด้วยพระองค์เอง ด้าน “หมอหยอง” ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษ Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ เผยที่มาของภาพ เป็นช่วงที่สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เยี่ยมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ระหว่างปิดเทอมและทรงสอนว่ายน้ำ เพราะต้องการ ให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง ฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีความอดทน และเกิดความเป็นผู้นำที่ดี




เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการนำภาพในเฟซบุ๊กชื่อ “สุริยัน หมอหยอง สุจริตพลวงศ์” ซึ่งเป็นของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดงานกิจกรรมพิเศษ Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ ที่เผยแพร่ภาพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฝึกหัดว่ายน้ำและพายเรือด้วยพระองค์เอง ให้กับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ พระโอรส ในหลากหลายพระอิริยาบถ พร้อมมีข้อความบรรยายภาพว่า “@ความรักความผูกพันอันยิ่งใหญ่ของพ่อที่มีต่อลูก ไม่มีวันหมดตราบลมหายใจสุดท้าย ปิดภาคเรียนเล็ก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จทรงเยี่ยมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติ ฝึกว่ายน้ำ ความอดทน และความเป็นผู้นำพร้อมจะถวายงานแผ่นดิน” ออกมาเผยแพร่ โดยผู้เข้าไปชมภาพชุดนี้ต่างระบุว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยาก สร้างความปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้ รวมถึงแสดงความคิดเห็นว่าเป็น “ความรักที่ยิ่งใหญ่” ทั้งยังร่วมถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” และแสดงความดีใจที่ได้เห็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติ ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงพระเกษมสำราญ



ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามนายสุริยันถึงภาพชุดดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร พระราชานุญาตโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพทรงฝึกหัดว่ายน้ำให้กับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ณ ประเทศเยอรมนี จำนวน 10 ภาพ ในระหว่างเสด็จฯ เยี่ยมช่วงปิดเทอมภาคเรียนเล็กเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังทรงพาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ไปเที่ยวและทรงร่วมทำกิจกรรมต่างๆระหว่างพ่อและลูก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราช กุมาร ตรัสว่า การสอนว่ายน้ำนั้น ทรงต้องการสอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเอง และฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า สิ่งสำคัญทรงต้องการให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มีความอดทน และเกิดความเป็นผู้นำที่ดี เพื่อในอนาคตเติบโตขึ้นมา จะต้องมีหน้าที่ทำงานดูแลประชาชน และแผ่นดินต่อไป

นายสุริยันกล่าวอีกว่า ตอนนี้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงตั้งใจเรียนมาก และมีความสุข ทรงมีพระปรีชาสามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตในต่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงทรงปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม และทรงเข้ากับบุคคลอื่นได้ดี สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยไม่ต้องให้ใครช่วยเหลือหลายเรื่อง และทรงมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราช กุมาร ทรงต้องการให้พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติ ทรงเรียนรู้ถึงวิธีการดำรงชีวิตเติบโตแบบความเป็นธรรมชาติเหมือนบุคคลทั่วไป ให้เข้าใจความเป็นคนธรรมดาที่มีการผ่านความยากลำบาก ทรงมองเห็นอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เรียนวิถีชีวิตความหลากหลายรูปแบบด้วยตนเอง ให้สามารถแบ่งเวลาด้วยตัวเอง รู้หน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเอง เช่น วัยเด็กก็ต้องมีหน้าที่เรียนหนังสือ เมื่อเติบโตต้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอีกแบบ หากเติบโตแบบนี้ จะรู้หน้าที่ความเป็นผู้นำที่ดีของตัวเองได้ เพื่อกลับมาเป็นผู้นำช่วยเหลือพสกนิกรและประเทศต่อไปได้








ที่มา: http://www.thairath.co.th

Thailand links Bangkok shrine bomb to Chinese Uighurs for first time



Thai police chief blames last month's deadly bombing on a people smuggling network that trafficked Uighurs and was angered by Thailand's recent crackdown on their trade


As Thai police says mastermind now in Turkey and Malaysia holds three new suspects, Asia Editor Philip Sherwell reviews what we now know about Bangkok terror atrocity







ที่มา: http://www.telegraph.co.uk
Posted by Unknown

Police chief pinpoints deportation motive



Revenge for the deportation of Uighurs to China and Turkey could be the motive behind the bomb blasts at the Erawan shrine and Sathon pier last month, police chief Somyot Poompunmuang said Tuesday. It










ที่มา: http://www.bangkokpost.com
Posted by Unknown

รู้แล้วจะน็อค?ภรรยาทำแบบนี้กับสามีได้โดยไม่มีความผิดทางกฎหมาย ประโยชน์ของทะเบียนสมรส



ทะเบียนสมรสสำคัญอย่างไร
การจดทะเบียนสมรสและทะเบียนสมรสมีความสำคัญต่อคู่แต่งงาน สามีภรรยา เพราะเป็นเอกสารทางกฎหมายที่ใช้สำหรับยืนยันความสัมพันธ์และเป็นหลักฐานที่ใช้สำหรับการยืนยันสิทธิ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างสามีภรรยา เช่น การรับรองบุตร ซึ่งจะทำให้บุตรได้รับสิทธิ์ต่างๆ ตามกฎหมาย การแบ่งสินสมรส การฟ้องหย่าในกรณีสามีหรือภรรยามีชู้ เป็นต้น





การจดทะเบียนสมรสและทะเบียนสมรสอาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับสามีภรรยาบางคู่ ด้วยเหตุผลบางประการ เช่น คู่สามีภรรยาที่ทำธุรกิจ หรือนักการเมือง ซึ่งการจดทะเบียนสมรสทำให้ต้องมีการตรวจสอบทางบัญชีการเงินของทั้งสามีภรรยา เป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซับซ้อน หรืออาจเกิดการฟ้องร้องได้ การแต่งงานแบบนี้จึงอาจไม่มีทะเบียนสมรสโดยความยินยอมและตกลงของสามีภรรยาเอง แต่ในขณะเดียวกันการแต่งงานโดยไม่จดทะเบียนสมรสก็กลายเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายที่ทำให้สามี หรือภรรยาโอนทรัพย์สินของตัวเองไปยังบัญชีของอีกฝ่ายเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบหรือการเสียภาษีได้เช่นกัน

ประโยชน์ของทะเบียนสมรส
อย่างที่เกรินไปตั้งแต่แรกว่าประโยชน์หรือสิทธิ์ตามกฎหมายของการจดทะเบียนสมรส หรือใบทะเบียนสมรสมีเยอะมาก แต่เราลองทราบคร่าวๆ เฉพาะในส่วนที่มักจะได้ยินหรือได้รับผลกระทบเป็นหลักกันก่อนค่ะ

1. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีภรรยาต้องอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน นั่นหมายความว่าสามีจะหาเลี้ยงภรรยา หรือภรรยาจะหาเลี้ยงสามี หรือจะช่วยดูแลกันและกันก็ได้

2. การจดทะเบียนสมรสทำให้หญิงหรือภรรยามีสิทธิ์ใช้ชื่อสกุลของสามี หรือจะไม่ใช้ก็ได้

3. การจดทะเบียนสมรสทำให้หญิงต่างชาติมีสิทธิ์ขอถือสัญชาติไทยตามสามีได้ (ถ้าอยากถือสัญชาติไทย)

4. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีภรรยามีสิทธิ์จัดการสินสมรสร่วมกัน (ทรัพย์ที่ได้มาระหว่างสมรส)

5. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีหรือภรรยามีสิทธิ์รับมรดกของคู่สมรสเมื่ออีกฝ่ายเสียชีวิตไปก่อน

6. การจดทะเบียนสมรสทำให้มีสิทธิ์รับเงินจากทางราชการ หรือนายจ้าง เช่น กรณีที่คู่สมรสตายเพราะปฏิบัติหน้าที่ หรือจากการทำงาน (บำเหน็จตกทอด) หรือ การรับเงินสงเคราะห์บุตรตามกฎหมายแรงงาน

7. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีหรือภรรยามีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือค่าทดแทนจากผู้ที่ทำให้คู่สมรสของตัวเองเสียชีวิตได้ เช่น สามีโดนรถชน ภรรยาสามารถเรียกค่าเสียหายถึงชีวิตกับผู้ขับรถชนได้

8. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีหรือภรรยาสามารถหึงหวงคู่สมรสของตัวเองได้อย่างออกหน้าออกตามกฎหมาย และหากพบว่าคู่สมรสมีชู้ ก็สามารถเรียกค่าเสียหายได้ทั้งจากคู่สมรสของตัวเอง และเรียกค่าเสียหายได้จากชู้ด้วย

9. การจดทะเบียนสมรสทำให้บุตรมีฐานะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถใช้นามสกุลพ่อได้ สมัครเข้าเรียนได้ และรับมรดกจากผู้เป็นพ่อได้ (บุตรเป็นสิทธิ์ตามชอบธรรมของแม่อยู่แล้ว)

10. การจดทะเบียนสมรสทำให้ได้รับการลดหย่อนค่าภาษีเงินได้

11. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีภรรยาที่ทำความผิดระหว่างกัน เช่น สามีขโมยเงินภรรยา ภรรยาบุกเข้าบ้านสามี ผู้ที่ทำผิดไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย

12. การจดทะเบียนสมรสทำให้สามีหรือภรรยาฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่ร้ายคู่สมรสของตัวเองได้ เช่น ภรรยาโดนกระชากกระเป๋า สามีสามารถแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนร้ายได้ หรือ สามีโดนคนพูดจาหมิ่นประมาทว่าร้าย ภรรยาก็สามารถฟ้องหมิ่นประมาทฝ่ายตรงข้ามแทนสามีได้

ทะเบียนสมรสมีผลทางกฎหมายนานแค่ไหน อายุของทะเบียนสมรส
การจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทะเบียนสมรสก็จะมีผลทางกฎหมายหรือมีอายุยาวตลอดไปจนกว่าจะมีการจดทะเบียนหย่า ซึ่งการจดทะเบียนหย่าก็เป็นไปตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย หรือถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ก็ต้องมีการฟ้องหย่าโดยให้ศาลเป็นผู้พิจารณา เพื่อใช้เหตุผลและหลักฐานต่างๆ ประกอบ รวมถึงการหาข้อตกลงต่างๆ เช่น การแบ่งสินสมรส สิทธิ์การดูแลบุตร ค่าเลี้ยงดู เป็นต้น

การจดทะเบียนสมรสซ้อน
ตามกฎหมายระบุว่าการจดทะเบียนสมรสซ้อนนั้นผิดกฎหมาย และไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย เช่น หนุ่มเอจดทะเบียนสมรสกับสาวบี แล้วอีกไม่นานหนุ่มเอก็ไปจดทะเบียนสมรสกับสาวซี แบบนี้เรียกว่าจดทะเบียนสมรสซ้อน ซึ่งกฎหมายระบุว่าการจดทะเบียนสมรสครั้งหลังเป็นโมฆะ หากการจดทะเบียนสมรสครั้งแรกยังไม่มีการจดทะเบียนหย่าที่สมบูรณ์ และภรรยาที่จดทะเบียนสมรสซ้อนจะไม่มีรับสิทธิ์ตามกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น

ในขณะเดียวกัน ถ้าหนุ่มเอลักไก่ด้วยการจดทะเบียนสมรสไว้กับสาวทั้งสองคน แต่อยู่ๆ หนุ่มเอจดทะเบียนหย่ากับสาวบี แล้วไปอยู่กับสาวซี กฎหมายก็ไม่ให้สิทธิ์เช่นกัน เพราะถือว่าหนุ่มเอและสาวซีจดทะเบียนสมรสซ้อนในช่วงที่ยังมีการจดทะเบียนสมรสตัวจริงอยู่

พอจะทราบความสำคัญและประโยชน์ของการจดทะเบียนสมรสหรือใบทะเบียนสมรสกันแล้วนะคะ ใครที่กำลังจะแต่งงาน หรือแต่งงานไปแล้วแต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ลองกลับมาทบทวนกันอีกครั้งค่ะว่าจริงๆ แล้วการจดทะเบียนสมรสดีกับเราหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและเหตุผลของแต่ละคนและแต่ละคู่สามีภรรยานะคะ เพราะอย่างไรแล้วคู่ชีวิตที่อยู่กับด้วยความรักและความเข้าใจคือสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ



หวยเด็ดหวยดัง งวดวันที่ 16/9/58 เช็คกันได้เลยจ้า









http://variety.teenee.com
Posted by Unknown

เจ้าอาวาสวัดดังร้องตลิ่งริมน้ำป่าสักทรุด รั้วเหล็ก-บ้านพัง




     เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พระครูปริยัตยาทร อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดสมุหประดิษฐาราม ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ว่า รั้วริมตลิ่งของวัดทรุดพังลง จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นรั้วข้างวัดริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก ทำเป็นเสาปูนรั้วเหล็ก พบดินริมตลิ่งพังทรุดลงไประยะทางยาวกว่า 50 เมตร สาเหตุน่าจะเกิดจากริมตลิ่งวัดไม่มีเสาเข็ม แล้วดินเกิดสไลด์ลงแม่น้ำป่าสัก ประกอบกับระยะนี้มีฝนตกเกือบทุกวัน ทำให้ดินริมตลิ่งอ่อนตัวไหลลงแม่น้ำป่าสัก


 พระครูปริยัตยาทร กล่าวว่า เมื่อ 3 วันก่อนริมตลิ่งเริ่มพังและพังมากขึ้น มีหน่วยงานจังหวัด หน่วยงานท้องถิ่นมาสำรวจตรวจสอบไปแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ขณะเดียวกันที่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 1  ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายชุมพร ศรีมณี อายุ 69 ปี ข้าราชการบำนาญ ใต้ฐานบ้านด้านริมแม่น้ำป่าสักพังทรุดลงมา และฐานบ้านริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักของนายบุญนาค ขุนแก้ว อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ 1 ตั้งอยู่ใกล้กัน ใต้ฐานบ้านดินทรุดไหลลงแม่น้ำป่าสักเช่นกัน ต้องนำผ้าใบมาวางปิดกั้นไว้ไม่ให้ดินไหลทรุดลง








http://kha4all.blogspot.com

ดูแลพ่อแม่สมองเสื่อมกับ 10 ตัวช่วยด้วยความรัก



ยามวัยชรามาเยือนความจำมันก็หลงๆลืมๆ แต่ผู้สูงอายุบางรายถึงกับตกอยู่ในภาวะสมองเสื่อม หรือที่เรียกกันว่า อัลไซเมอร์ หากในครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุเป็นอัลไซเมอร์จะต้องยิ่งใส่ใจดูแลพวกท่านเพิ่มทวีคูณ ซึ่งตัวผู้ดูแลเองก็เสี่ยงที่เกิดปัญหาสุขภาพทั้งกายและใจได้ เนื่องจากการดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อมต้องใช้ความอดทนสูงทีเดียว ไหนจะภาระหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง ไหนจะการรับมือกับอาการสมองเสื่อมของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รศ.ดร.สมชาย เตียวกุล นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา จึงได้แนะนำ 10 วิธีการดูแลรักษาผู้ป่วยสมองเสื่อมอย่างมีสุขภาพดีของสมาคมอัลไซเมอร์ ดังนี้




1.ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
อาการของโรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ จะพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งอาจสังเกตได้จากการที่ผู้ป่วยเริ่มมีความคิด หรือพฤติกรรมแปลกๆ เช่น ลืมข้าวของ ลืมกาน้ำร้อนไว้บนเตาทั้งที่ยังไม่ได้ปิดไฟ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีอาการเจ็บป่วยทางกายใดๆ ปรากฏขึ้นในระยะนี้ ถ้าปรึกษากับแพทย์จะพบว่า ผู้ป่วยมีความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความทรงจำ อารมณ์ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นไม่ควรรีรอที่จะพาไปพบแพทย์ เนื่องจากอาการบางอย่างสามารถรักษาให้หายได้

2.หาตัวช่วยหาตัวช่วยโดยการติดต่อกับสมาคม
อัลไซเมอร์ในชุมชนที่คุณพักอาศัยอยู่ เพื่อเป็นที่ปรึกษาคอยชี้แนะ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ เช่น การดูแลผู้ป่วยในเวลากลางวันขณะที่สมาชิกในครอบครัวต้องออกไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการนำผู้ป่วยมาฝากไว้ที่ศูนย์ดูแล หรือจะให้มีเจ้าหน้าที่ไปดูแลเป็นการเฉพาะที่บ้าน ตลอดจนบริการอื่นๆ ตามความเหมาะสม

3.ดูแลผู้ป่วยอย่างมีทักษะเมื่ออาการของโรคพัฒนามากขึ้น
ผู้ดูแลจำเป็นต้องมีความสามารถในการดูแลเพิ่มขึ้นตามลำดับ เช่น การเข้ารับการฝึกอบรมจากสมาคม หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโรคสมองเสื่อม เพื่อทำความเข้าใจในตัวผู้ป่วย และปัญหาที่อาจเกิดจากการกระทำของผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยมักมีพฤติกรรม และบุคลิกที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากขึ้นตามเวลาที่เปลี่ยนไป

4. ยินดีรับความช่วยเหลือการพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว
อาจทำให้หมดพลังในการดำเนินชีวิต และการดูแลผู้ป่วยได้ ดังนั้น ควรยอมรับความช่วยเหลือ หรือยินดีรับความช่วยเหลือจากญาติตลอดจนองค์กรต่างๆในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม ซึ่งจะช่วยเบาแรง และไม่เกิดภาวะวุ่นวาย โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในช่วงที่รู้สึกเครียด

5. ดูแลตัวเองให้แข็งแรงการดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่จะมองข้าม หรือละเลยไม่ได้เด็ดขาด
เริ่มจากรับประทานอาหารให้ได้สัดส่วน ออกกำลังกาย และหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการมีสุขภาพดีจะช่วยให้การทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยดี และมีประสิทธิภาพตามไปด้วย

6. ควบคุมระดับความเครียดการฝึกผ่อนคลายด้วยวิธีต่างๆ
เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เป็นสิ่ง ที่มีประโยชน์ เพราะหากปล่อยให้ความเครียดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งทางกาย และใจตามมาได้ เช่น อาการตาพร่ามองอะไรไม่ชัด ไม่มีสมาธิ เบื่ออาหาร หรือรับประทานอาหารมากผิดปกติ เป็นต้น เมื่อมีอาการดังกล่าว ให้สังเกตอาการที่เกิดขึ้นแล้วบันทึกเพื่อนำไปปรึกษาแพทย์  นักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุ  และแนวทางการรักษาต่อไป

7. ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีอาการ และพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม
และมักทำตามใจที่ต้องการโดยไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ใดๆ บางทีอาจจะเรียกร้องเกินกว่าที่จะจัดให้ได้ ซึ่งควรยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และมองหาทรัพยากรในชุมชนที่ให้ความอนุเคราะห์ในเรื่องนั้นๆ ได้ เช่น อาจจะต้องฝากไว้กับสถาบันการรักษาผู้ป่วยในเวลากลางวัน หรือในช่วงเวลาที่ต้องไปทำธุระต่างถิ่น

8. วางแผนการเงิน และกฎหมายให้ดีเมื่อพบว่าพ่อแม่ หรือคนในบ้านป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม
การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสวัสดิการต่างๆ มีระเบียบข้อบังคับ หรือข้อกฎหมายกำหนดกรอบไว้ ทางที่ดีควรปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย และการวางแผนการเงินต่างๆ เช่น การจัดทำพินัยกรรม การวางแผนเกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งที่เป็นสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ โดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินการเหล่านี้ ในช่วงเวลาที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด

9. ให้รางวัลแก่ตัวเองบ้างการรับผิดชอบดูแลผู้ป่วยนั้น อาจแตกต่างกันไปตามความรู้ และความสามารถของผู้ดูแล
ซึ่งอาจรู้สึกผิดเป็นบางครั้งที่ไม่สามารถ ทำให้ดีกว่านี้ไปบ้าง แต่ไม่ควรโทษ หรือตำหนิตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดความเครียด และอารมณ์หงุดหงิดตามมาได้

10. ไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอการตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น มีอาการเหนื่อยล้า หมดแรง นอนไม่หลับ เครียด เบื่ออาหาร หรือทำอะไรผิดพลาดบ่อยขึ้น การละเลยอาการเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และสุขภาพจิตได้

เมื่อต้องอยู่กับพ่อแม่ที่มีภาวะ "สมองเสื่อม" ความเครียดคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่การบริหารจัดการความเครียด และหันมาดูแลสุขภาพให้ดีทั้งทางกาย และจิตใจคือสิ่งสำคัญของการทำหน้าที่ผู้ดูแลอย่างมีประสิทธิภาพครับ





http://family.truelife

สลด!!ข้างห้องได้กลิ่นโชย แจ้งตร.งัดเข้าไปดู-เจอศพยายตายเดียวดายคาห้องน้ำ 3 วัน





 วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.ท.กวี ช่วยสร้าง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในอาคารแฟลตปลาทอง ชั้น 2 ห้องเลขที่ 333/18 อาคาร 30 หมู่ 6 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู






 ที่เกิดเหตุพบประตูห้องถูกล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูงัดลูกบิดเข้าไป และพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย อยู่ภายในห้องน้ำ สภาพศพนอนหงาย ทราบชื่อคือ นางกินนร แซ่ตั้ง อายุ 75 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการรื้อค้น



 สอบถามนายนิวัฒน์ ดลเสถียร อายุ 29 ปี ผู้พักอาศัยห้องติดกัน กล่าวว่า ปกติจะเห็นคุณยาย เดินเข้าออกห้องอยู่เป็นประจำ และยายจะอยู่ห้องคนเดียว แต่ไม่เห็นยายมาประมาณ 2-3 วันแล้ว อีกทั้งยังได้กลิ่นโชยมานึกว่าเป็นหนูตาย จนกระทั่งวันนี้กลิ่นแรงมาก ออกมาจากห้องของยาย จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และพบว่ามีผู้เสียชีวิตดังกล่าว



 ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบว่าผู้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน และคาดว่าผู้ตายอาจจะลื่นล้มในห้องน้ำ และไม่มีไครเห็น เพราะยายอยู่ห้องนี้แค่คนเดียว นานๆลูกๆจะมาหาสักครั้งหนึ่ง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป






http://www.khaosod.co.th

พูดจาไม่ให้เกียรติ!! แทงยับหนุ่มนอนจมกองเลือด-หลังรุ่นใหญ่เรียกมากินเหล้าคุยเรื่องใจถึง



วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.ท.วัฒน์ศิลป์ ผายวงษา รอง.สวป.สภ.ตาดโตน อ.เมืองสกลนคร รับแจ้ง มีเหตุแทงกันได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านพังขว้างใต้ หมู่ 1 ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร จึงรุดไปที่เกิดเหตุ






 ที่บ้านดังกล่าวพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายมนัส อภัยศรี อายุ 20 ปี อยู่บ้านพังขว้างใต้ หมู่ 1 ต.พังขว้าง อ.เมืองสกลนคร ถูกแทงด้วยมีดยาวกว่าครึ่งเมตร ที่บริเวณหน้าท้อง นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน อาการสาหัส จึงได้นำส่ง รพ.สกลนคร

 สอบสวนทราบว่ามือมีด คือ นายสมร โพธิภักดี อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ มือมีดให้การว่า โทรเรียกผู้บาดเจ็บมากินเหล้ากันตั้งแต่หัวค่ำ หลังจากนั้นต่างคนต่างเมา และมีการพูดคุยเรื่องอดีตและใจถึงว่าใครแน่กว่ากัน ด้วยความไม่พอใจ เพราะโดนเด็กคราวลูกพูดจาไม่ให้เกียรติ จึงคว้ามีดมาแทงไป 1 ครั้ง เพื่อสั่งสอน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป





http://www.khaosod.co.th

 วันแรกทะลุ 4 หมื่น-แห่จอง"สลากเสรี" กรุงไทยให้กู้รายย่อย ชลบุรีจับ-ขายเกิน80



ลงทะเบียน จองสลาก วันแรกคึกคัก ทั่วปท. ยอดทะลัก 4 หมื่นราย กองสลากฯ เตือนอย่าซื้อ เกินกำลัง เพราะไม่รับซื้อคืนจองซื้องวดแรก 3-7 ต.ค.นี้ ที่ออมสิน-ธ.ก.ส. ได้สลากงวด 16 ต.ค. แบงก์กรุงไทย เตรียมปล่อยกู้ ไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย ขณะที่ ชลบุรีจับจริง ขายเกินราคา เชียงใหม่-สระแก้วรายย่อยคึกคัก อุตรดิตถ์เชื่อพออยู่ได้ พิจิตรแม่ค้าชมรัฐบาลทำดี เลยเยอะสุด แห่ลงทะเบียนล้นแบงก์ โคราชผู้ค้าใหม่ลงทะเบียน ขอนแก่น-บุรีรัมย์ห่วงสลากล้น อ่างทองชี้ดีกว่าซื้อจากยี่ปั๊ว





ยอดวันแรกทะลุ 4 หมื่นราย


เมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี บรรยากาศการลงทะเบียนของประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองล่วง หน้าสลากฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยตัวจริงสามารถซื้อสลากฯ ได้โดยตรงจากสำนักงานสลากฯ ตามจำนวนและตามความสามารถในการจำหน่ายของตนเอง ขั้นต่ำ 5 เล่ม แต่ ไม่เกิน 50 เล่ม เป็นไปด้วยความคึกคัก อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นวันแรกของการเปิดให้มีการลงทะเบียน โดยพบว่าประชาชนเดินทางไปที่ธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก ทั้งสาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และบางส่วนมารอเข้าคิวเพื่อรับการบริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยจากรายงานล่าสุด เมื่อเวลา 15.05 น. พบว่ามีการลงทะเบียนไปแล้วกว่า 40,355 ราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 หมื่นราย






http://www.khaosod.co.th

ล่าหนุ่มแสบ ตุ๋นคนตกงาน! เหยื่อกว่าร้อย



สุดแสบตุ๋นชาวบ้านแหลมฉบังกว่าร้อย เหยื่อเผยถูก ชายอ้างเป็นทหาร ตุ๋นเปิดรับสมัครงานในท่าเรือแหลมฉบัง มีทั้งรปภ. คนกวาดถนน และคนเก็บขยะ โดยหลอกเก็บค่าใบสมัครคนละ 150 บาท พร้อมนัดสัมภาษณ์งาน พอไปรายงานตัวจึงรู้ถูกหลอก เลยมาแจ้งความที่สภ.แหลมฉบัง ตร.ยันจะเร่งล่าตัวโดยด่วน





เหตุ ตุ๋นชาวบ้านรายนี้เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.ท.นิติภูมิ รัตนวรรณี พนักงานสอบสวน สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี รับแจ้งความจากชาวบ้านกว่า 150 คน ที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกเรียกรับเงินเพื่อแลกต่อการเข้าทำงาน กวาดขยะ ภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง โดยผู้เสียหายให้การเมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากนายวันชัย ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งอ้างตัวเป็นนายทหารถูกส่งมาประจำการที่อำเภอศรีราชา ระบุสำนักงานท่าเรือแหลมฉบังจะเปิดรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่กวาดถนน โดยคิดค่าใบสมัครใบละ 150 บาท และนัดให้ไปสอบสัมภาษณ์และรายงานตัวเข้าทำงานในวันนี้ เมื่อไปที่สำนักงานท่าเรือแหลมฉบังจึงทราบว่าไม่มีการรับสมัครแต่อย่างใด ทุกคนจึงทราบว่าถูกหลอกและได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง


ผู้ เสียหายให้การด้วยว่า นายวันชัยระบุมีตำแหน่งงานหลายตำแหน่งโดยผู้ชายจะต้องไปเป็นเจ้าหน้าที่อาสา สมัคร ดูแลความเรียบร้อย ส่วนผู้หญิงก็มีหน้าที่กวาดพื้นถนนภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง จนกระทั่งความแตกเมื่อ ผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปยังสำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อสอบสัมภาษณ์งาน และรายงานตัว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ไม่ได้เปิดรับสมัครงานแต่ประการใด


พ.ต.อ. ชันโชติ เสนาจักร พงส.ผทค.สภ.แหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อผู้เสียหาย ซึ่งยังมีผู้เสียหายเดินทางมาลงชื่อเป็นระยะๆ ทั้งนี้ต้องขอเวลาให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ดำเนินการสักระยะหนึ่ง ล่าสุดพบที่อยู่ของคนร้ายรายนี้แล้ว แต่ยังไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด


นางอรุณ ลักษณ์ จันทร์หอม อายุ 47 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อจากนายวันชัย ว่า มีตำแหน่งเจ้าหน้าที่กวาดถนน ของสำนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ว่าถ้าตนสนใจจะทำงานก็ต้องจ่ายเงิน 150 บาท เป็นค่าใบสมัคร และเพื่อเป็นการการันตีตำแหน่ง ตนก็จ่ายไป และบอกให้ตนรอมาอบรมที่สำนักงานการท่าเรือแหลมฉบัง แถมยังบอกว่าทำงานเพียงแค่ 4 เดือนก็จะได้บรรจุเป็นพนักงานของการท่าเรือแหลมฉบังอีกด้วย ทำให้ชาวบ้านต่างพากันหลงเชื่อใจอย่างสนิท


นางอรุณลักษณ์ กล่าวต่อว่า จนวันนี้ซึ่งเป็นวันนัดสัมภาษณ์งาน และรายงานตัวเพื่อจะเข้าทำงาน ก็ไปติดตามเรื่องที่สำนักงานการท่าเรือแหลมฉบัง จึงทราบไม่มีการประกาศรับสมัครงานแต่อย่างใด ตนพร้อมกับผู้เสียหายอีกประมาณ 120 คน จึงเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.แหลมฉบัง ขณะเดียวกันก็พบชาวบ้านอีกกลุ่มจำนวนกว่า 20 คน เดินทางมาแจ้งความเช่นเดียวกัน


ผู้เสียหายอีกรายกล่าวว่า ตัวเองถูกหลอกให้ทำงาน โดยทำหน้าที่เดินเก็บถุงขยะ ภายในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งต้องจ่ายค่าใบสมัครคนละ 150 บาท เช่นเดียวกัน โดยคนร้ายอ้างเป็น เจ้าหน้าที่ทหารมารับสมัครพนักงานเก็บถุงขยะ ให้สำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง และยังอ้างอีกว่าเป็นคำสั่งของนางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ส่งผลให้ชาวบ้านต่างพากันให้ความสนใจ จนยอมจ่ายค่า ใบสมัครอย่างเต็มใจ


ผู้ สื่อข่าวยังรายงานว่า ผู้เสียหายทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นคนที่ตกงานอยู่แล้ว และบางส่วนก็มีงานทำอยู่ แต่ก็ต้องออกจากงานเดิม เพราะหลงเชื่ออุบายของคนร้ายรายนี้ โดยหลังแจ้งความเสร็จได้รวมตัวกันเดินทางไปยังสำนักงานเทศบาลนครแหลมฉบัง เพื่อให้นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง หาช่องทางช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยมีผู้บริหารของเทศบาล ทั้งนางจินดา นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง และนายภูษิต แจ่มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบังออกมารับทราบปัญหาของชาวบ้าน


นายบุญ เลิศกล่าวว่า จะให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครชุมชน ทั้ง 23 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ช่วยกันติดตามสอดส่องหาตัวคนร้ายรายนี้ให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้ เสียหายอีกทางหนึ่ง





http://www.khaosod.co.th

เตือนพายุ “หว่ามก๋อ” ถล่ม 13 จว. - กทม.ฝนตกมาราธอน-น้ำท่วม รถติดหนัก





 วันที่ 16 ก.ย. ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุหมุนเขตร้อนบริเวณทะเลจีนใต้" ฉบับที่ 13 เมื่อเวลา 04.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุดีเปรสชัน “หว่ามก๋อ” (VAMCO) ยังคง ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง







 จึงขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา นครสวรรค์ ลพบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก รวมถึงฝนที่ตกสะสม สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2558 ไว้ด้วย



 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



 ขณะที่สถานการณ์ฝนตกในกทม. ตั้งแต่ช่วงกลางคืนถึงเช้าวันนี้ ส่งผลถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง การจราจรติดขัดหนักมากกว่าเดิม อาทิ ถนนกัลปพฤกษ์ขาเข้า เกือบถึงแยกกำนันแม้น น้ำท่วมขัง รถติด , ถนนรามอินทรา เป็นต้น






http://www.khaosod.co.th

เผยแล้ว!! โฉมหน้าบิ๊กไบค์ล้มคว้าแฟนมากอด ถ้าได้เห็นรูปแล้วจะรู้เลยว่า ทำไมคนถึงรักเธอ



หลายคนคงจะได้ดูคลิปบิ๊กไบค์ล้มแล้วคนขี่ผู้ชายก็ดึงร่างแฟนสาวที่กำลังกลิ้งมากอดเอาไว้ จนปลอดภัยทั้งคู่ คลิปนี้กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ แถมยังพากันอิจฉาคู่รักคู่นี้อีกด้วยที่ฝ่ายชายแสดงความห่วงใยและความรักต่อแฟนสาวขนาดนี้ น่ารักจริงเลยๆ วันนี้เราเลยขอพามาดูโฉมหน้าชัดๆของคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดในตอนนี้กันนะ อิอิ










 


คลิปนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ค Book Skate ระบุว่า "สดๆร้อนๆ ทางลงเขา ลำตะคอง ระวังกันด้วยนะครับ 14.15 น. ทั้ง 2 คนปลอดภัยดี 15/09/58 #goprohero4 รู้สึกตกใจกับ อัษฎาวุธ โง๊ะบุดดา และ Munthita Daungkhamdee ที่ เขื่อนลำตะคอง@โคราช"
เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกจากกล้องที่หมวกกันน็อกของผู้ขับขี่ที่ชายหนุ่ม ซึ่งขี่บิ๊กไบค์โดยมีผู้หญิงซ้อนท้าย เป็นช่วงลงเขาที่ลำตะคอง จ.นครราชสีมา และฝนตกหนักถนนลื่น จู่ๆ รถบิ๊กไบค์เกิดเสียหลักพลิกคว่ำ ทั้ง 2 คนก็ลื่นไถลไปบนพื้นถนน แต่ผู้ชายมีสติดึงร่างผู้หญิงเข้ามากอด ก่อนที่จะไปกระแทกกับขอบถนน





ที่มา: http://www.bigza.com

2เด็กหญิง'ชวนกันเล่นน้ำ ถูกพัดจมหายเสียชีวิตสลด สลด!



ชักชวนกลุ่มเพื่อนเล่นน้ำ พยายามว่ายตามเก็บรองเท้าถูกน้ำซัด เพื่อนเห็นกระโจนลงไปช่วยถูกน้ำพัดจมหาย ชาวบ้านช่วยกันงมร่างนำส่งโรงพยาบาลแต่ยื้อไม่ทันเสียชีวิตระหว่างทาง


 „เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พ.ต.ต.ธีระเจตน์ ต่อน้อย พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งประสานจากเจ้าหน้าที่รพ.วารินชำราบว่ามีเด็กจมน้ำหมดสติ ถูกนำส่งเข้ารักษาและเสียชีวิตลงจึงไปร่วมชันสูตรพลิกศพ ภายในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลดังกล่าวพบศพ ดญ.ปิยะธิดา สายชนะ อายุ 11 ปี และ ด.ญ.นริศรา นอบน้อม อายุ 10 ปี สภาพร่างกายซีดเผือด คาดว่าเสียชีวิตไม่เกิน 2 ชั่วโมง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่ เป็นนักเรียนโรงเรียนบ้านแสนคำนาชุมสามัคคีชั้น ป.5 และ ป.4ตามลำดับ ก่อนเกิดเหตุหลังเลิกเรียนได้ชักชวนกลุ่มเพื่อน ไปเล่นน้ำบริเวณร่องน้ำแสนคำ บ้านแสนคำ ต.สระสมิง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร แต่เนื่องจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและไหลเชี่ยวกว่าปกติ“

 


„โดยระหว่างที่กำลังลงเล่นน้ำอยู่นั้น รองเท้าฟองน้ำของ ด.ญ.ปิยะธิดา เกิดหลุดและถูกน้ำพัดพาไป ด.ญ.ปิยะธิดา จึงว่ายตามไปแต่เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง จึงต้านไม่ไหวเรียกให้ ด.ญ.นริศรา วิ่งลงไปช่วย ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกระแสน้ำพัดจมหายไปต่อหน้าเพื่อนที่เหลือ เมื่อรวบรวมสติได้จึงวิ่งไปบอกชาวบ้านมาช่วยงมร่างหนูน้อยทั้ง2 ขึ้นจากน้ำและรีบนำส่งโรงพยาบาลแต่ไม่ทันการณ์ เนื่องจากเด็กหญิงทั้งคู่จม



 

 อยู่ในน้ำเป็นเวลานานทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตระหว่างทาง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่และญาติๆ เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งแพทย์นิติเวชรพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เพื่อชันสูตรพลิกศพก่อนมอบศพให้ญาติต่อไป.“ ที่มา: http://www.dailynews.co.th

„ผู้เชี่ยวชาญยันหินประหลาด ไม่ใช่อุกาบาตแค่หินควอทซ์ “



„ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ก้อนวัตถุประหลาดที่ไทรโยค เมืองกาญจนบุรี เป็นเพียงหินตะกอนควอทซ์ไม่ใช่อุกาบาต เผยจัดทีมพลิกป่าหาวัตถุแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว“


 


„กรณีมีปรากฏการณ์อุกาบาตพุ่งลงมาจากฟ้าพร้อมระเบิดเสียงสนั่นหวั่นไหวกลางอากาศเหนือ จ.กาญจนบุรี จนรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และหลายจังหวัดสามารถมองเห็นได้ โดยชาวบ้านในพื้นที่ อ.ไทรโยคที่เห็นเหตุการณ์อ้างว่า เห็นวัตถุดังกล่าวพุ่งตกบริเวณป่าห้วยแห้ง-ห้วยเต่าดำ เขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปตรวจสอบโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ของทหารจาก พล.ร.9 ขี้นบินสำรวจร่องรอยบริเวณพื้นที่ป่า อ.ศรีสวัสดิ์และป่า อ.ไทรโยค พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงที่พบและเก็บชิ้นส่วนของวัตถุที่คาดว่าเป็นอุกาบาตได้ ให้นำมามอบให้สาขาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อใช้ในการศึกษา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยะศิริเดช นายอำเภอไทรโยค ได้รับรายงานว่า มีชาวบ้านพื้นที่หมู่ 8 ต.วังกระแจะ พบเศษวัสดุซึ่งเชื่อว่าเป็นเศษอุกกาบาตที่ระเบิดกระจายตกไปทั่วในรัศมี จึงประสานแจ้งอาจารย์ ดร. สุทัศชา หงษ์ศรีสวัสดิ์ อาจารย์สาขาธรณีศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบ โดยชาวบ้านคนดังกล่าว (ไม่เปิดเผยชื่อ) เป็นชาย

 

อายุ ราว 50 ปี ได้นำวัตถุที่พบไปมอบให้อาจารย์สุทัศชา ตรวจสอบพบเป็นเพียงหินตะกอนคว๊อซท์ สีแดงอมเทา ประกอบด้วยแร่ควอทซ์เป็นหลัก สร้างความผิดหวังให้ชาวบ้านที่พบ จาก
นั้นอาจารย์สุทัศชาได้อธิบายลักษณะของอุกกาบาตให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ว่า ต้องมีสีเข้ม สีดำ พื้นผิวจะมีร่องรอยไหม้ที่เกิดจากการเสียดสีของชั้นบรรยากาศเป็นสีดำเข้ม ความหนาแน่นหรือน้ำหนักจะมากกว่าหินทั่ว ๆไป รวมทั้งบริเวณที่พบจะมีร่องรอยการเผาไหม้ตามกอหญ้าหรือต้นไม้ให้เห็น อีกทั้ง 90% จะเป็นอุกกาบาตหินอีก 10% จะเป็นอุกกาบาตเหล็ก หรือโลหะ หรืออุกา
บาตรเหล็กผสมหิน ซึ่งใน 1,000 ก้อนจะมีเพียงแค่ก้อนเดียว ด้านนายประวัฒน์ พวงทอง หน.อุทยานฯไทรโยค กล่าวว่าตั้งแต่วันที่เกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯออกลาดตระเวน ทางเท้า ไปบริเวณที่สงสัยว่าวัตถุดังกล่าวจะตก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานทั้งจากชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ว่าพบวัตถุดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ก็จะค้นหาเป็นบริเวณกว้างไปอีกระยะหนึ่งหากไม่พบก็จะยกเลิกภารกิจ.“





„สาวใหญ่ลอบทำระเบิดปิงปอง พลาดบึ้มสนั่นฉีกร่างเละ สาวใหญ่



เมืองสุพรรณฯ ลอบรับจ้างบรรจุระเบิดปิงปอง พลาดบึ้มสนั่นฉีกร่างเละ ดับสยอง รองผู้การฯ เต้นสั่งเจ้าหน้าที่เดินหน้ากวาดล้างอีกรอบ ป้องเหตุบึ้มซ้ำซาก“


 







 

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 16 ก.ย. ร.ต.ท.ปริทรรศน์ ชูทอง พนักงานสอบสวน สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุพลุระเบิดที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 3 ต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ มีเสียชีวิต 1 ราย จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ชาติชาย นาคะสุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.โรจนรุตม์ดวงสะอาด สว.สส. ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตัวบ้านและหลังคาถูกแรงระเบิดพังเสียหายเกือบทั้งหลัง พบศพนางจำนง พิมพ์จันทร์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน ถูกแรงระเบิด แขน ขา และ ใบหน้าฉีกขาด เสียชีวิตอย่างสยอดสยอง นอกจากนี้ยังพบรถกระบะ 2 คัน รถจยย. และทั้งข้าวของเครื่องใช้พังเสียหาย“

 


„สอบสวนเบื้องต้นนายธง พิมพ์จันทร์ อายุ 57 ปี สามีผู้ตายให้การว่า บ้านที่เกิดเหตุมีผู้พักอาศัยรวม 4 คนคือตนเอง ผู้ตาย แม่ยาย และหลานสาว ภรรยาของตนมีอาชีพรับจ้างบรรจุระเบิดปิงปองมาได้ประมาณ 1 ปี โดยรับดินระเบิดมาจากเจ้าของโรงงานพลุหนึ่งมาเป็นประกอบ ส่วนตนไม่ได้ร่วมด้วยเนื่องจากต้องทำนา ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายกำลังนั่งประกอบระเบิดปิงปองอยู่ที่กลางห้องเพียงลำพัง ทันใดนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวตนและคนในบ้านตกใจวิ่งหนีตายออกจากบ้าน พบร่างภรรยานอนแน่นิ่งสภาพแขน ขา ใบหน้าและลำตัวมีแผลฉีกขาดเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล“



„ด้านพ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรีเปิดเผยว่า จากการสอบสวนสามีผู้เสียชีวิตไม่ยอมให้การซัดทอดว่า รับดินระเบิดมาจากใคร แต่แนวทางการสืบสวนทราบว่า มีโรงงานพลุที่มีใบอนุญาต ลักลอบผลิตโดยผิดกฎหมายในพื้นที่จ.สุพรรณบุรี หลายแห่ง ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุพลุระเบิดมีคนเสียเสียชีวิตมาแล้วหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามกวดขันจับกุมแต่ไม่เข็ดหลาบ กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักออกสืบสวนจับกุมผู้ที่ลักลอบผลิตพลุที่ผิดกฎหมายทุกรายมาดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ซึ่งครั้งนี้นับเป็นความโชคดีของคนในบ้านที่อยู่คนละห้องไม่เช่นนั้นอาจมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตมากกว่านี้อย่างแน่นอน.“






ที่มา: http://www.dailynews.co.th

„ผงะ!งูเหลือมยักษ์ยาว 4เมตร เลื้อยเขมือบเป็ดเกลี้ยงเล้า ช่าง



ไฟฟ้าเทศบาล ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ผงะงูเหลือมขนาดใหญ่ เลื้อยเข้าไปเขมือบเป็ดที่เลี้ยงไว้ 5 ตัวเกลี้ยง รีบแจ้งกู้ภัยจับปล่อยคืนธรรมชาติ“







เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 16 ก.ย. นายชาญวิทย์ บำรุงศรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งประสานขอ ความช่วยเหลือ จับงูเหลือมขนาดใหญ่ ที่เลื้อยเข้าไปเขมือบเป็ดที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ จึงไปตรวจสอบพร้อมอุปกรณ์ ที่เกิดเหตุบริเวณบ้านควนเนียง หมู่ 11 ต.ท่ายาง ทางไปบ้านพอโกบ พบนายอภิชาต เต็มเปี่ยม อายุ 42 ปี ช่างไฟฟ้า ของเทศบาล ต.ท่ายาง เจ้าของเล้าเป็ด ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จากการการตรวจสอบพบ งูเหลือมขนาดใหญ่ ยาว 4 เมตร กำลังเขมือบเป็ดอยู่ในเล้า จึงใช้อุปกรณ์จับใช้เวลา 15 นาที จึงสามารถจับได้ ก่อนนำไปปล่อยป่ารกต่อไป จากการสอบถามทราบว่า นายอภิชาต ได้เลี้ยงเป็ด ไก่เอาไว้หลายตัว แต่มาระยะหลังสังเกตพบว่า เป็ดใน


 

เล้าที่เลี้ยงเอาไว้ 5 ตัว ได้ทยอยหายไปเรื่อยๆ จนเหลือตัวเดียว โดยแรกคิดว่าเป็นฝีมือขโมย จึงซุ่มดูกระทั่งพบงูตัวดังกล่าวซึ่งคาดว่า มันคงเลื้อยออกจากป่ามาหาจับเป็ดที่เลี้ยงไว้ด้วยความหิว. “

  ที่มา: http://www.dailynews.co.th

„พายุถล่มสัตหีบต้นประดู่ โค่นขวางถนนไฟดับทั้งเมือง พายุ"หว่า



มก๋อ" ที่อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ยังออกฤทธิ์ ทำเมืองสัตหีบ ชลบุรี ป่วน ต้นประดู่ยักษ์โค่นขวางถนน การจราจรติดขัด ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง“



„เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน สภาพอากาศในพื้นที่ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า อิทธิพลพายุดีเปรสชั่น หว่ามก๋อที่อ่อนตัวเป็นหย่อมความกดอาอากาศต่ำส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักในพื้นที่ พัดต้นประดู่ขนาดใหญ่หักโค่นขวางถนนสองเลนช่วงถนนสุขุมวิท ขาเข้าเมืองพัทยา ช่วงกิโลเมตรที่ 169 ก่อนถึงเทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ต.สัตหีบ จนช่องทางการจราจรใช้การไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สัตหีบและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ต้องเข้าช่วยเหลืออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้รถเลี่ยงไปใช้ในช่องทางขาเข้าสัตหีบชั่วคราวท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 14 ก.ย. ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเกือบทั้งเมือง ทำให้เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าสัตหีบต้องเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและบรรเทา






 สาธารณภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การทาง หมวดทางหลวงสัตหีบ ได้นำเลื่อยไฟฟ้า และขวานเร่งดำเนินการตัดต้นไม้เป็นท่อน ๆ เพื่อเคลื่อนย้ายออกนอกช่องทางจราจรซึ่งต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชม. จึงคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ในพื้นที่สัตหีบได้รับผลกระทบจาก พายุโซนร้อน"หว่ามก๋อ" (VAMCO) บริเวณตอนใต้ของเมืองดานังประเทศเวียดนาม ได้เคลื่อนตัวไปยังเมืองสาระวันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัดอุบลราชธานีทำให้ในช่วงระหว่าง วันที่ 15-18 ก.ย.58 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและจะมีตกหนักในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ส่งผลให้อำเภอสัตหีบได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว. “

ที่มา: http://www.dailynews.co.th

„การจราจรเมืองกรุงสาหัส! หลังฝนเทกระหน่ำทั้งคืน“



„พิษพายุ"หว่ามก๋อ " ทำฝนกระหน่ำกรุงทั้งคืน ส่งผลกระทบการจราจร ช่วงเช้าในเส้นทางสายหลัก ค่อนข้างติดขัด หนาแน่น เกือบทุกสาย แต่ยังเคลื่อนตัวได้“

„เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุข่าวสารและการ จราจร สวพ.91 ได้รายงานสภาพการจราจร ตามถนนสายหลักทั่ว กรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุหว่ามก๋อ ที่อ่อนกำลังลงเป็น ร่องความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้มีฝนตกกระจายเกือบทั่วทุกพื้นที่ ของกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. ที่ผ่านมา เริ่มที่ ถนนรัชดาฯ จากแยกประชานุกูล มุ่งหน้าต่างระดับรัชวิภา มีฝนตกรถเคลื่อนตัวได้อย่าง



ช้าๆ ด่วนขั้น 2 แจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าประชาชื่น รถมาก เคลื่อนช้า..และด่านรัชดา มุ่งหน้าต่างระดับพญาไท รถแน่นทางลงพระราม 6 ขณะที่ถนนคู้บอน มุ่งหน้าออกรามอินทรา กม.8 การจราจรหนาแน่นรถติดสะสม เคลื่อนตัวได้ช้า ที่ฝั่งธนบุรี สะพานคู่ขนานลอยฟ้า มุ่งหน้าสะพานพระราม 8 ท้ายแน่น ส่วนฝั่งขาเข้า จากโค้งวัดอมรคีรี มุ่งหน้าแยกวิสุทธิ์กษัตริย์ จปร. รถติดขัด จากแยกอรุณอมรินทร์ มุ่งหน้าสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ส่วนถนนพระราม 2 ขาเข้า ตั้งแต่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนดาวคะนอง รถหนาแน่นเคลื่อนตัวช้า ถนนพระราม4 จากแยกรัชดา-พระราม4 มุ่งหน้าใต้ด่วนพระราม4 รถมาก เคลื่อนช้าๆ ท้ายแยกรัชดา-พระราม4 ถนนงามวงค์วาน แคลาย-เดอะมอล์ล ฝนตกปริมาณรถเยอะแต่ยังพอเคลื่อนตัวได้ ถนนวิภาวดี จากสุทธิสาร เข้าใต้ด่วนดินแดง รถมาก ท้ายสะสมหน้าศูนย์ฝึก รด. ส่วนบริเวณแยกรัชวิภา มุ่งหน้าแยกลาดพร้าว ช่องด่วนและคู่ขนาน เคลื่อนช้าๆ ในพื้นที่มีฝนตก ถนน





ลาดพร้าว ขาเข้า แยกบางกะปิ - มหาดไทย - แยกโชคชัย เข้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว รถเคลื่อนช้า ท้ายสะสมสะพานข้ามแยกบางกะปิด่วนแจ้งวัฒนะ ขาเข้า ท้ายแถวเนินข้ามแจ้งวัฒนะ เคลื่อนตัวช้ามากแล้ว ฝนตกปานกลาง สะพานพระราม4 เข้าถนนแจ้งวัฒนะ รถมาก เคลื่อนตัวช้า ในพื้นที่มีฝนตก ถนนเพชรบุรี จากแยกพร้อมพงษ์ มุ่งหน้าแยกอโศก-เพชรบุรี รถมาก ในพื้นที่มีฝนตก ส่วน ถนนพหลโยธิน ขาเข้า จากวงเวียนบางเขน มุ่งหน้า แยกเกษตร แยกเสนานิคม ท้ายชะลอตัวอยู่สะพานข้ามคลองบางบัว ล่าสุดมีรายงานอุบัติเหตุ รถชนกัน 5 คัน บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ พหลโยธิน ขาเข้า เจ้าหน้าที่กำลังเคลื่อนย้าย ขณะที่ถนนพัฒนาการ ขาเข้า มุ่งหน้าแยกคลองตัน รถติดมาก ท้ายอยู่แยกตัดถนนศรีนครินทร์ ถนนรามคำแหงขาเข้า รถติดสะสมถึง หมู่บ้านบัวขาว วัดบางเพ็งใต้ รถมาก เคลื่อนตัวช้าๆ. “







ที่มา: http://www.dailynews.co.th

ตลก 6 ฉาก I 17







Posted by Unknown

ข่วร้องประจำวัน

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

visitor

- Copyright © ข่าววันนี้ -Metrominimalist- Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan -